“พิธา เป็นของจริง หรือของปลอม?” พลโท นันทเดช ซัดตรงถึงวิสัยทัศน์ตะวันตกจ๋า ติงแรงถึงแนวคิดเรื่องกองทัพ ประวัติศาสตร์ และผู้นำยุคใหม่!
“พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์” โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nuntdach Makswat ระบุว่า
เพิ่งมีเวลามาอ่านบทความพิเศษของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในมติชนรายสัปดาห์ ที่เพื่อนๆ ส่งมาให้ดู ผมอ่านแล้ว ก็เกิดความรู้สึกสงสารใน ”อัตตา“ ของพิธา ที่พยายามโชว์วิสัยทัศน์ที่นึกว่าทันสมัยอยู่เช่นเดิม ในรูปแบบความคิดแบบขี้ข้าชาวตะวันตก โดยไม่ได้รู้ถึงสภาพความเป็นจริงที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างรวดเร็วในโลกปัจจุบันนี้ (โก้วเล้งกล่าวไว้ว่า บางคนแม้จะยืนอยู่ท่ามกลางแสงแดดก็มีจิตใจที่มืดมนได้) เช่น
.พิธา ย้ำว่า “ทหารมีไว้ป้องกันประเทศ ไม่ใช่ปกครองประเทศ”
..80 ปี ประเทศไทย ทหารมีไว้ทำไม ก็จะไปรบกับใคร.. [ลองแหกตาดูสิว่าปัจจุบันนี้มีการรบกันเกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งพื้นที่ขนาดเล็กและขนาดใหญ่มากกว่า 30 แห่ง แม้กระทั่งตามแนวชายแดนไทย] ..สมมุติว่ามีคนมารุกราน ผมก็ไม่เชื่อว่าคุณจะรบชนะด้วย.. [หลังเสียกรุงศรีฯ ครั้งที่ 2 แล้ว ทหารไทยไม่เคยรบแพ้ใครเลยครับ ส่วนในพื้นที่ภาคใต้ ทหารไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องใช้กำลังทหารเต็มรูปแบบ เพราะเป็นแค่การขัดแย้งในระดับท้องถิ่นของเราเอง ข้อพิสูจน์ในปัจจุบัน เมื่อทหารไทยไปเป็นกองกำลังรักษาสันติภาพให้สหประชาชาติในหลายพื้นที่อันตราย ก็ได้รับการยกย่องกลับมาทุกแห่ง] ..แล้วอีกอย่างคือตอนนี้เป็นเรื่องของอาวุธ ประเทศที่อยู่ใกล้ ๆ กันที่เคยทะเลาะกัน มันไม่ทะเลาะกันแล้ว ทุกวันนี้บางประเทศไม่ต้องมีกองทัพด้วยซ้ำไป… [คิดได้ยังไง 5555] ..ถ้าผู้นำฉลาดพอ มันคือเรื่องกฎกติกาสากล มันคือระเบียบโลก.. [เก่าไปมั้ง เรื่องระเบียบโลกสมัยสหรัฐเป็นเจ้าโลกเมื่อเริ่มยุคโลกาภิวัตน์ใหม่ ๆ ผ่านมา 30 ปีแล้วนะน้อง] ..ยิ่งประเทศเล็ก ๆ อย่างพวกเรายิ่งต้องฉลาด สามารถทำให้ประหยัดงบกองทัพ วันนี้จะมาหาคำตอบกันว่าเราจะทลายทุนทหาร อะไรคือขุมทรัพย์สีเขียว.. [ทำไมไม่พูดเรื่องการทุจริตของนักการเมืองบ้างล่ะ] …
2.ยังไม่จบครับ พิธาเขียนต่ออีกว่า “กองทัพที่เข้มแข็งต้องอยู่ภายใต้รัฐบาลที่โปร่งใส ตรวจสอบได้” ก็อยากถามพิธากลับว่า อีกกี่ร้อยปีที่ประเทศไทยจะได้มีรัฐบาลแบบนี้ แต่ถ้าบังเอิญมีขึ้นเมื่อไร ทหารก็ต้องอยู่เฉย ๆ โดยอัตโนมัติ เพราะประชาชนจะไปอยู่ข้างรัฐบาลแน่นอน
3.พิธาต่ออีกว่า “วันนี้ผู้นำอาเซียนหลายประเทศ รวมถึงไทย มีผู้นำรุ่นใหม่ไม่ได้เป็นทายาทของสงครามเย็น”
ในอาเซียน ผู้นำส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่อยู่ใต้บุคคลในยุคสงครามเย็นเกือบทั้งสิ้น ฟิลิปปินส์ ลูกมาร์กอส / อินโดนีเซีย อดีตนายทหารรบพิเศษ รุ่นสงครามเย็น อายุ 72 ปี / พม่า ก็ทหารรุ่นสงครามเย็น / ลาว และเวียดนาม มาจากพรรคคอมมิวนิสต์ / ไทย และกัมพูชา ลูกคนในสงครามเย็น เก่าจัดเลย / มาเลเซีย อายุ 77 เป็น activist ต่อต้านสงครามเวียดนาม ได้มาเป็นนายกฯ แบบแปลก ๆ ด้วย
4.พิธาปิดท้ายด้วยคำหล่อ ๆ ที่ใช้หลอกเด็กได้แค่ ม.1 เท่านั้น ว่า
“ประวัติศาสตร์กำลังเปิดหน้าขาวให้คนรุ่นนี้ได้เขียนตำนานบารมีของตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งของคนรุ่นพ่อครับ” ก็อยากถามกลับว่า ที่พิธามีกินมีอยู่ทุกวันนี้ไม่ได้มาจากพ่อหรือไงครับ
ในขณะที่พิธายังบ้าตะวันตกอยู่ คนในพรรคประชาชนหลายคนเริ่มเรียนรู้ความจริงจากประสบการณ์จริง ๆ บางคนมีบทบาทเปลี่ยนไป เก็บเกี่ยวประสบการณ์ของคนรุ่นพ่อ รุ่นแม่ และคนยากจนบนพื้นที่จริง ๆ ไม่ใช่หาอ่านบทความจากหนังสือแบบพิธา และดันเป็นหนังสือต่างประเทศอีกด้วย พิธายังเป็นของปลอมอยู่เหมือนเดิม ถ้ายังเดินอยู่บนความฝันและหาประสบการณ์จากหนังสือต่างประเทศ แล้วนำเรื่องมาเปรียบใช้กับสังคมไทย
พลโท นันทเดช / 2 กรกฎาคม ‘68