นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม แถลงข่าวถึงกรณีการเรียกรับส่วยเพื่อขอสัญชาติว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ตนพื้นที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งรับฟังจากประชาชนในพื้นที่ มีการเรียกเก็บเงินในการขอสถานะบุคคล จากคนไร้สัญชาติ ตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 ซึ่งมีการเรียกเก็บเงินตั้งแต่ 3,000-40,000 บาท หากคำนวณจากคนต่างด้าวที่พำนักอยู่ในประเทศไทยจำนวน 483,626 คน และต้องจ่ายเงินคนละ 5 พันบาท ทำให้มูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท เป็นเงินที่อยู่นอกระบบใต้พรม รัฐบาลจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญ โดยตนมีข้อเสนอ 5 ข้อ ได้แก่1.เร่งปราบคอร์รัปชั่นให้ชัดเจนรวดเร็ว ไม่เช่นนั้น ประชาชนกลุ่มชาติพันธ์ที่อยู่บริเวณชายแดนไทยและพื้นที่อื่น จะต้องเสียเงินจำนวนมาก 2.จะต้องมีมาตรการจากส่วนกลาง แต่ละจังหวัดและแต่ละอำเภอ จะให้คนไร้สัญชาติเข้าถึงขั้นตอนได้อย่างไร เนื่องจากขณะนี้ ในแต่ละพื้นที่ใช้มาตรการไม่เหมือนกัน จึงมีช่องว่างให้เจ้าหน้าที่รัฐตั้งแต่ระดับสูงถึงล่าง เรียกรับเงินจากประชาชน 3.อำเภอและจังหวัดจะต้องเคลื่อนที่ไปหาประชาชน ไม่ใช่ให้ประชาชนเข้าหา 4.ต้องใช้งบประมาณ กำลังพล และอุปกรณ์ โดยกระทรวงมหาดไทยต้องจัดสรรงบประมาณให้กับท้องถิ่น และ 5.จำเป็นต้องมีกรอบเวลาในการให้สัญชาติกับคนจำนวน 4 แสนกว่าคน